รถแลกเงิน: เช็กก่อน สินเชื่อรถแลกเงิน VS สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ต่างกันอย่างไร?การขอสินเชื่อ หรือการขอกู้เงินมักมีวัตถุประสงค์ คือต้องการเงินก้อน หรือวงเงินสำรอง เพื่อเสริมสภาพคล่องทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อรูปแบบไหน เช่น สินเชื่อรถแลกเงิน หรือสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล หลายคนก็คงมองว่ายังไงก็คือการกู้เงินเหมือนๆ กัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเภทของสินเชื่ออย่างสินเชื่อรถแลกเงิน และสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล จะมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน แต่...จะมีข้อแตกต่างอะไรบ้างที่หากคิดจะขอสินเชื่อ เราควรรู้! ก่อนตัดสินใจเลือกประเภทสินเชื่อ ตามมาดูกันเลย…
1. รูปแบบของสินเชื่อ
สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นสินเชื่อที่ต้องใช้หลักทรัพย์ ซึ่งก็คือรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม ใช้รถเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน และต้องโอนเล่มทะเบียนไว้กับผู้ให้บริการสินเชื่อจนกว่าจะผ่อนชำระหมด จึงจะได้รับโอนกรรมสิทธิ์คืน แต่ระหว่างทางยังสามารถนำรถยนต์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม ใช้รถเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเช่นกัน แต่ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน วงเงินที่ได้อาจจะน้อยกว่าแบบโอนเล่มทะเบียน แต่จะได้รับอนุมัติเร็วกว่า
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :
>> คนมีรถอยากได้เงินก้อน เลือกสินเชื่อรถแลกเงินแบบไหนดี
>> อยากขอสินเชื่อรถแลกเงิน ต้องรู้อะไรบ้าง?
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน แบ่งออกเป็น
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล เป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน รับเป็นเงินกัอนผ่อนชำระเป็นรายเดือนๆ ละเท่าๆ กัน
สินเชื่อบัตรกดเงินสด รับเป็นวงเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินในบัตรฯ กดใช้เมื่อไหร่ ถึงจะมีการคิดดอกเบี้ย
สินเชื่อตามวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ สินเชื่อเพื่อการศึกษา ฯลฯ
2. วงเงินกู้
สินเชื่อรถแลกเงิน : วงเงินสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับราคาประเมินรถยนต์ รวมถึงรุ่นรถยนต์ สภาพรถยนต์ เป็นต้น สินเชื่อรถแลกเงินแต่ละแบบก็จะได้วงเงินกู้ที่แตกต่างกัน ดังนี้
สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่มทะเบียน วงเงินสินเชื่อประมาณ 80% - 120% ของราคาประเมิน
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มทะเบียน (โอนลอย) วงเงินสินเชื่อประมาณ 70% - 80% ของราคาประเมิน
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล : เป็นสินเชื่อที่มีข้อจำกัดในเรื่องของวงเงินกู้ โดยจะได้รับวงเงินอ้างอิงจากรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ ความสามารถในการชำระหนี้ และประวัติการขอสินเชื่อในอดีต ส่วนใหญ่วงเงินที่ได้รับจะไม่เกิน 3 - 5 เท่าของรายได้
3. การคิดดอกเบี้ย
เมื่อเกิดการกู้ยืม ผูัให้บริการสินเชื่อก็จะมีการคิดดอกเบี้ยจากเงินที่ให้กู้นั้น ซึ่งการคิดดอกเบี้ย แบ่งตามรูปแบบของดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อแต่ละประเภท ดังนี้
สินเชื่อรถแลกเงิน มีการคิดดอกเบี้ย 2 รูปแบบ คือดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) และอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ซึ่งก่อนขอสินเชื่อผู้กู้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการสินเชื่อ เพื่อลองคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนก่อนได้
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล เป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) และมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ชัดเจน